Thursday, February 3, 2011

กระบี่ สวรรค์ของคนพายเรือท่องทะเล

กระบี่ สวรรค์ของคนพายเรือท่องทะเล


 
สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          จังหวัดกระบี่ เมืองท่องเที่ยวที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสวรงสวรรค์ของการพายเรือท่องเที่ยวทางทะเล ด้วยว่าจังหวัด นี้มากมายด้วยทรัพยากรทเี่อื้อต่อการพายเรือคายักลำเล็กๆ ท่องเที่ยวไปตามลำคลองชายฝั่งสายเล็กๆ ที่ส่วนใหญ่น้ำในคลองก็จะใสสะอาด บางแห่งถึงกับใสปิ๊งเป็นน้ำประปา หลายๆ แห่งแม้น้ำจะไม่ใส แต่ก็มากมายด้วยป่าโกงกาง พืชพรรณไม้ในเขตทรอบีคอลต่างๆ โชคดีนักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้เจอฝูงสัตว์ป่า อย่างลิงค่างหลากพันธุ์ ปูปลาป่าชายเลนสีสันแปลกๆ หรือเจ้าตะกวดตัวใหญ่ยักษ์ออกมาท่องน้ำหากินให้เห็นกันจะๆ หรือไม่ก็ได้เห็นพรรณไม้หายากอย่างจันทน์ผาต้นยักษ์ๆ หรือกล้วยไม้ป่า รองเท้านารีเหลืองกระบี่ที่ขึ้นชื่อลือชา

           ส่วน นักท่องเที่ยวที่ชอบพายเรือไกลไปในทะเลกว้าง ชายฝั่งกระบี่ก็มากมีด้วยป่า เกาะน้อยใหญ่ พายไปพักไปได้แบบเหนื่อยกำลังพอดี และมีอะไรต่อมิอะไรให้ชมระหว่างทางมากมาย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดกระบี่จึงเป็นจังหวัดที่นักพายเรือท่องเที่ยวชื่นชอบ และผู้ประกอบการพายเรือก็ชื่นใจ เพราะตัวเลขผู้ใช้บริการมีมาเป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้ในรัศมีที่เดินทางมากระบี่ได้ไม่เกินชั่วโมงครึ่ง นักท่องเที่ยวจากทุกที่ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต พังงา ล้วนเลือกมาใช้เวลาสักวันหนึ่งในการพายเรือท่องเที่ยวกับบริการพายเรือหลาก หลายในเมืองกระบี่กันแทบทั้งหมด


พายคายักเกาะกาโรส

          เกาะกาโรส หรือ กะโหลน ชื่อแรกเป็นชื่อในแผนที่ทหาร ส่วนชื่อหลังเป็นชื่อตามภาษาพูดของชาวบ้านภาคใต้ ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ทางการมหาดไทยเลือกที่จะใช้ชื่อตามแผนที่ทหารเป็นชื่อทางการของเกาะแห่ง นี้ เกาะกาโรสเป็นเกาะที่แทบจะไม่ใช่เกาะ เพราะอยู่ติดกับแผ่นดินมาก มีเพียงคลองกาโรสคลองสายเล็กๆ เท่านั้น ที่ขีดคั่นระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะกาโรสให้ออกจากกัน ภายในเกาะกาโรสมีทั้งขุนเขา ลำคลอง และเวิ้งอ่าวต่างๆ รวมทั้งเกาะเล็กๆ และกองหินน้อยๆ เป็นบริวารมากมายกว้างใหญ่ทีเดียว


          ช่วงเช้าเป็นช่วงน้ำขึ้น ที่เขาหนาบน้ำซึ่งมีถ้ำมีแคนยอนหรือทะเลในให้เราเข้าไปพายสำรวจได้ลึกล้ำ  แถมยังมีป่าโกงกางแซมอยู่อย่างหนาแน่น ตามแคนยอนและป่าโกงกางเข้าไปเส้นทางค่อนข้างแคบ ไม่ค่อยมีใครเข้ามาในนี้มากนัก  ต้องพายกันอย่างระมัดระวัง ในบริเวณแคนยอนนี้สามารถมองเห็นหน้าผาเป็นหน้าผาเรียบ ไม่มีโถงหรือหินงอกหินย้อย แต่มีพรรณไม้แปลก ๆ ขึ้นตามชะง่อนหิน ทั้งไม้ใบและไม้ดอกจำพวกกล้วยไม้ จันทน์ผาปรง เตย สลัดไดหรือตะบองเพชรภูเขาด้านล่างก็เป็นไม้พุ่มสวยๆ ไม่เพียงแค่นั้น เรายังได้เห็นนกกระเต็น นกยางควายมากมาย ธรรมชาติที่นี่ยังปราศจากการรุกรานจริงๆ พายเรือจากแคนยอนออกมาก็จะมองเห็นเกาะกาโรส ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าอีกครั้งหนึ่ง


          พอช่วงสายน้ำทรง ออกจากเขาหนาบน้ำพายไปยังเขาอ่าวลึกน้อย ถึงตอนนี้หยุดเอาเท้าราน้ำกินอาหารกลางวันกันก่อนที่เวิ้งอ่าวแห่งหนึ่ง สวยงามได้ใจมาก ข้างนอกอ่าวเป็นภูเขาหิน ตรงกลางอ่าวเป็นหน้าผา มีไม้น้ำเกาะอยู่แพรวพราวสวยงาม แสงแดดสาดส่องลอดภูเขาลงมาช่วยทำให้เรือคายักซึ่งอยู่กลางแดดแต่ละลำดูสวย ขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว โดยเฉพาะลำที่จอดนิ่งดูเด่นเป็นสง่าอยู่กลางอ่าว


          ออกจากเขาอ่าวลึกน้อยพายผ่านปากถ้ำที่น้ำเริ่มลงแล้วปากถ้ำจึงกว้างพอสมควร ถ้าน้ำขึ้นมากๆ จะพายเรือเข้าไปลำบาก ผ่านปากถ้ำสิ่งที่พบสิ่งแรกคือประติมากรรมหินก้อนโตที่ประดับไปด้วยต้นเตย ทะเล พายลัดเลาะผ่านไปพบผาหินสวยงามรูปร่างต่างๆ ไม่เรียบเหมือนแคนยอนของเขาหนาบน้ำมีริ้วหินเป็นชั้นๆ บ้าง เป็นชะง่อนผาที่มีต้นไม้ปกคลุมและห้อยลงมาเหมือนม่านธรรมชาติดูสวยงามมาก พายลัดเลาะเรื่อยๆ ไปตามต้นโกงกางที่ขึ้นอยู่ทั่วไป จนน้ำเริ่มลงมากจึงสามารถพายเรือออกจากลากูนและมุ่งหน้ากลับ การพายเรือครั้งนี้ไม่ได้ใช้ระยะทางมากนัก แต่เราก็อิ่มตาอิ่มใจกับธรรมชาติสวยงาม


          นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถออกพายต่อไปยังเกาะจำปา ซึ่งมีทั้งจำปานอกและจำปาใน แล้วพายตัดไปยังบริเวณแหลมสัก เพื่อชมธรรมชาติของผาและภาพเขียนสีโบราณที่ถ้ำชาวเล ก่อนจะพักสุดท้ายด้วยการขึ้นปีนเขาตะปูน้อยท้ายเกาะและกระโดดน้ำลงมาเป็นที่ สนุกสนาน

พายคายักชมธรรมชาติเกาะห้อง และพระอาทิตย์ตกที่หาดทับแขก


          หมู่เกาะห้อง เป็นเกาะหลายเกาะ เช่น เกาะห้อง เกาะแดง เกาะลาดิง และเกาะผักเบี้ย เป็นต้น หมู่เกาะนี้สังกัดอยู่กับอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี น้ำทะเลใสออกสีเขียวคราม ใต้น้ำอุดมด้วยสัตว์น้ำและแนวปะการัง เป็นจุดหาจับสัตว์น้ำอันอุดมสมบูรณ์ของชาวประมงชายฝั่ง บนเกาะบางแห่งมีหาดทรายสีขาวสะอาดตาหลายแห่ง นอกจากนั้น ที่เกาะห้องภายในเกาะยังมีทะเลในหรือลากูนกว้างใหญ่โอบล้อมด้วยหน้าผาสูง อย่างสวยงาม เป็นที่ที่บรรดาเรือท่องเที่ยวทั้งใกล้ไกลจะต้องพากันเข้ามาวนดูธรรมชาติอัน สวยงามแปลกตานี้ บางลำแล่นมาไกลจากภูเก็ตโน่นเลยทีเดียว


          เนื่องจากเป็นทะเลเปิดกว้างใหญ่ กิจกรรมพายเรือคายักที่หมู่เกาะห้องจึงมีหลากหลายรูปแบบ และมีกิจกรรมเสริมอื่นๆ เข้ามาช่วยเพิ่มเติมสีสันแก้เบื่อไปด้วย เช่น ดูชาวบ้านทำประมงวางหมึกกับปูม้า แล้วนำไปทำเป็นบาร์บีคิวอาหารกลางวันไปดูการทำรังนกที่เกาะลาดิง ดำน้ำตื้นชมปะการัง เล่นน้ำทะเลใสสีคราม และให้อาหารปลาเสือที่มีอยู่มากมาย เป็นต้น


          วันน้ำใหญ่ คือ วันเพ็ญ จะมีปริมาณน้ำสูงอยู่เป็นเวลานาน สามารถพายดูทั้งหมดได้ในรอบเดียว โดยจะพายไปยังถ้ำผีหัวโตและสามารถเข้าไปยังถ้ำเขาวงน้อย ที่จะสามารถเข้าไปชมได้เฉพาะช่วงน้ำสูงเท่านั้น เสร็จแล้วพายกลับมายังถ้ำลอดใต้ และพายต่อเข้าไปเส้นทางด้านในที่จะเข้าไปได้เฉพาะช่วงน้ำสูงเช่นกัน ในเส้นทางด้านในจะเป็นช่องทางไม่กว้างนัก มีธรรมชาติของพรรณไม้และหน้าผาที่สวยแปลกตาไปคนละรูปแบบ โดยไม่ต้องพายย้อนมายังบ้านบ่อท่อ สามารถพายออกมายังบริเวณใกล้เคียงถ้ำเขา วงน้อยเพื่อเข้าไปชมธรรมชาติ ก่อนที่จะพายกลับไปยังบ้านบ่อท่อได้เลย

พายเรือถ่ายภาพ เกาะปอดะ ทะเลแหวก
           เกาะปอดะ และ ทะเลแหวก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญที่สุดสองแห่งของทะเลกระบี่ แต่ไม่ยักมีเคาร์เตอร์ทัวร์ไหนมีรายการไปพายเรื่อที่ เกาะปอดะ และ ทะเลแหวก แต่ยังมีภาพนักท่องเที่ยวเช่าเรือคายัค พายออกไปไกลถึงเกาะปอดะและทะเลแหวกให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งมีวิธีการง่ายๆ และใครๆ ก็ทำได้ถ้าอยากจะทำก็คือ การไปว่าจ้างเรือหางยาวที่อ่าวนาง ตรงหัวมุมอ่าวมีเรือหางยาวลำใหญ่ๆ ให้เช่าเหมา คิดราคาแบบครึ่งวันและเต็มวัน มีตารางราคากำหนดโดยสมาคมท่องเที่ยวกระบี่เสร็จสรรพ


  

          ที่เกาะปอดะ หาดทรายสีขาวสะอาดเสียจนแสบตา เป็นที่ที่มีปลาเสือมาก มีไทยฝรั่งเอาเศษขนมปังมาโยนให้ปลาแย่งกันกินเสมอๆ เป็นอันจบเรื่องราวพายเรือคายักท่องเที่ยวกระบี่แต่เพียงเท่านี้



สระมรกต

สระมรกต

สระมรกต สระ น้ำสวยใสกลางใจป่า กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ แหล่งสุดท้ายที่พบ นกแต้วแร้วท้องดำ ซึ่งเคยสูญพันธ์ไปนานเกือบ 100 ปี ใครจะรู้บ้างไหมว่า ใจกลางป่าผืนนี้มีทั้งสระน้ำสวยใส และนกหายากอยู่รวมกัน

ป่าเขานอจู้จี้ ป่าดินที่ราบต่ำผืนสุดท้ายของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ มีสภาพเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ แบ่งเป็นป่าดงดิบชื้น และบางส่วนที่เป็นป่าพรุที่มี น้ำท่วมขังทั้งปี สามารถท่องเที่ยวได้สะดวกด้วยการเดินตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ดูพรรณไม้ที่น่าสนใจ เช่น ต้นเตียว ต้นชิง ฯลฯ นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนก ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีนกกว่า 300 ชนิด มีนกที่หายากและสูญพันธุ์ จากโลกนี้ไปแล้วเกือบ 100 ปี ซึ่งกลับมาค้นพบที่นี่คือ นกแต้วแร้วท้องดำ และเป็นแหล่งที่มีสระน้ำสวยใสหลายแห่ง อันเกิดมาจากธารน้ำอุ่น ที่สำคัญคือ สระมรกต ที่มีน้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลา และสภาพแสง
วัน เวลาที่แนะนำ สระมรกต สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแต่สภาพ ที่ดีซึ่งจะเห็นสระเป็นสีเขียวมรกตสดใส มักจะเป็นช่วงเวลาเช้า และเย็น โดยเฉพาะในวันฤดูร้อนที่ท้องฟ้าสดใสปราศจากเมฆฝน

การเดินทางจากจังหวัด กระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 สู่อำเภอคลองท่อม แยกซ้ายมือทางหลวง หมายเลข 4038 มุ่งหน้าอำเภอลำทับ ระหว่างทางมีทางแยกขวามือเป็นทางย่อยแยก เข้าสู่น้ำตกร้อน และสระมรกตที่มีป้ายบอกทางชัดเจน




ทะเลแหวก

ทะเลแหวก ลึกล้ำเข้าไปกลางทะเลลึกแห่งอันดามัน ช่วงเวลาหนึ่งที่เรานั่งเรือชมเกาะรูปร่างสวยงามแปลกตา ใครจะเชื่อว่า อีกชั่วข้ามเวลาหนึ่งทะเลที่เราผ่านมาชั่วครู่ จะลดระดับน้ำดุจทะเลแหวกออก จนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาดเชื่อมเกาะสามเกาะอย่างอัศจรรย์ ทะเลแหวกเป็นกลุ่มของเกาะ 3 เกาะ ที่มีหาดทรายเชื่อมติดกันได้แก่  เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ท่านสามารถเดินข้ามจากเกาะไก่ไปยังเกาะทับได้ในยามน้ำลง หากจะให้ดีก็ควรจะเป็นในช่วงน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ในอดีตนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือ มาตกปลา มากางเต้นท์ นอนนับดาวในคืนเดือนแรม หรือชมแสงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ ค้างคืนบนเกาะได้ แต่ปัจจุบัน ไม่อนุญาตให้นอนค้างแรมบนเกาะแล้ว ทะเลแหวกถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของกระบี่เลยทีเดียว มาเที่ยวทะเลกระบี่ทั้งที ต้องมาเที่ยวทะเลแหวกให้ได้สักหนึ่งหน

เกาะทัพ เป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ ยามน้ำลด หาดทรายทางด้านใต้นี้ จะเชื่อมต่อกับแนวสันทรายของเกาะปอดะนอก กลายเป็นสะพานธรรมชาติยาวประมาณ 200 เมตร แม้จะเป็นหาดทรายเล็กๆ แต่เม็ดทรายละเอียดและขาวมาก น้ำทะเลใส

เกาะหม้อ เป็นโขดหิน ไม่มีชายหาดให้ขึ้นไปบนเกาะ น้ำทะเลใสสะอาด เกาะหม้อ อยู่ห่างจากเกาะทัพ
เพียง 70 เมตร หากน้ำลดจะมีสันทรายเชื่อมต่อกัน สามารถเดินจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้


เกาะปอดะนอก หรือ เกาะไก่ หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดจินตนาการต่างๆกันไป บ้างก็เห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมองเห็นเป็นป็อบอาย ตัวการ์ตูนดังในสมัยยังแรกรุ่น หรือบางท่านอาจจะยังอยู่ในวัยอ่อนเดียงสา กำลังนอนคาบไปป์อย่างมีความสุข ท่านสามารถดำผิวน้ำชมปะการังน้ำตื้น หรือปะการังแข็งได้ที่เกาะไก่นี้ แต่ความสมบูรณ์ของปะการังก็คงไม่อาจเทียบเท่ากับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆที่ ห่างไกลจากผืนแผ่นดินใหญ่ ความประทับใจที่ท่านจะได้พบ ก็คงจะเป็น หาดทรายขาวทอดยาว เคียงคู่ไปกับน้ำทะเลสวยใส กับปลาลายเสือฝูงใหญ่ ที่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ ที่มักจะมารอคอยต้อนรับ และ พร้อมที่จะเล่นกับผู้มาเยือนอยู่เสมอ


อ่าวมาหยา เกาะพีพี

อ่าวมาหยา เกาะพีพี

อ่าวมาหยา เกิดขึ้นด้วยกระบวนการเดียวกันกับอ่าวปิเละ แต่ส่วนหนึ่งของหน้าผา ที่โอบล้อมพังทลายกลายเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่เชื่อมต่อ กับทะเลภายนอก น้ำทะเลไหลเวียนเข้าออกได้ดี เกาะหินปูนแห่งนี้ยังตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร ตะกอนที่มาจากอ่าวพังงามีอิทธิพลน้อยมาก น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องผ่านในระดับเหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังที่ล่องลอยอยู่ทั่ว บริเวณพากันลงเกาะบนหินที่ทับถมอยู่ กลางอ่าว เมื่อยึดที่มั่นได้ แต่ละตัวสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง...สองเป็นสี่ เวลาผ่านไปหลายพันปี แนวปะการังขยายขนาดปกคลุมทั่วอ่าวมาหยา ในเวลาเดียวกับที่ทะเลมีการเปลี่ยนแปลง กระบวนการของธรรมชาติยังเกิดขึ้นบนชายฝั่ง ตะกอนทรายตกทับถมรวมกันกลายเป็นหาด ผลของพืชชายทะเลที่ล่องลอยมากับน้ำบ้าง มากับสัตว์ต่างๆ บ้าง เจริญงอกงามกลายเป็นป่าชายหาด กินพื้นที่ตอนในของอ่าวประมาณ ๕๐ ไร่

เวิ้งอ่าวมาหยา ที่มีพื้นที่หลบอยู่ในภูเขาหินประมาณความยาว ๒๕๐ เมตรนั้น ส่วนหนึ่งถูกตกแต่งโดยธรรมชาติให้เป็นพื้นที่หาดทรายกว้างประมาณ ๕-๑๕ เมตร ทันทีที่ก้าวลงจากเรือและย่ำลงไปบนพื้นหาดทราย จะรู้สึกได้ว่า หาดทรายผืนเล็กผืนนี้ มันช่างนุ่มเท้าและขาวสะอาด ถึงขนาดต้องหลับตาให้ม่านตาได้ทุเลาลงจาก แสงแดดที่ส่องสะท้อนขึ้นมากระทบ บ้างในบางครั้ง หากลองย้อนกลับไป ความผ่องใสพิสุทธิ์ เนื้อทรายที่เป็นปุยนุ่มนวลเท้าของหาดทรายแห่งนี้ ล้วนเป็นผลพวงอย่างหนึ่งที่เกิดจาก ซากของปะการังที่ถูกทำลายจนย่อยยับ แหลกละเอียดเป็นชิ้นเป็นผง ตามวัฏจักรแห่งธรรมชาติ ในท้ายที่สุดถึงถูกเกลียวคลื่นสาดซัดขึ้นมากองทับถมมานานนับแรมปี

การ เดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ของทีมงานต่างประเทศ เรื่อง “เดอะบีช” กลายเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สื่อมวลชนแทบจะทุกแขนง ได้พากันนำเสนอข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้ ยิ่งกว่านั้น การกำหนดตัว นายลีโอนาโอ ดิ คาปิโอ ที่เขย่าโลกในบทของ “แจ็ค” จากภาพยนตร์เรื่อง “ไททานิค” ให้เป็นตัวพระเอก ยิ่งทำให้ข่าวดังกล่าวลุกกระพือกลายเป็นที่สนใจของประชาชน ด้วยความงามของหาด และความโด่งดังจากภาพยนต์เรื่อง “เดอะบีช” ทำให้ในแต่ละวัน มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอ่าวแห่งนี้มากมาย